หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คำสอนของสมเด็จพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงให้หลวงพ่อฤาษีเตือนลูกหลาน


สมเด็จพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓ ของภัทรกัป ทรงมีพระเมตตาให้หลวงพ่อฤาษีฯ เตือนลูกหลานและบริษัทของหลวงพ่อ ซึ่งมีความสำคัญ และเป็นประโยชน์มาก

สมเด็จพระพุทธกัสสป ทรงตรัสกับหลวงพ่อว่า
เมื่อวานนี้ คุณบันทึกเสียง บอกถึงความดีของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและลูกหลานทั้งหลายที่เขาทำกันว่า แต่ละคนมีวิมาน นี่คุณยังพูดไม่ครบถ้วนนะ
คุณต้องบอกเขาซิ บอกเขาว่า ทุกคนที่เป็นบริษัท ของคุณน่ะ เขามีวิมานชั้นแก้ว ๗ ประการด้วยกันทุกคนแล้วเป็นอย่างต่ำ ถึงแม้ว่าใครเขาจะทำบุญมากก็ตาม ใครเขาจะทำบุญน้อยก็ตาม แต่ว่าที่ทำ ทำไปด้วยศรัทธาแท้ ไม่ใช่จำใจทำนะ

คำว่า บริษัทของคุณ น่ะ หมายความว่า ที่เขามีความเลื่อมใสในคุณจริง ๆ มีความเลื่อมใสในการที่คุณนำเอาพระธรรมคำสั่งสอนมาบอกเขา แล้วก็แนะนำเขาให้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ แล้วเขามีความเลื่อมใสจริงๆ อย่างนี้เรียกกันว่า บริษัท
บริษัทแท้ ๆ ที่มีความมั่นใจในตัวคุณจริง ๆ เขามีวิมานแก้ว ๗ ประการกันหมดแล้ว เป็นวิมานอันดับ ๒ สำหรับวิมานอันดับ ๑ นั้น มันเป็นวิมานแก้ว ๙ ประการ
ทีนี้ก็มาว่ากันถึงความผ่องใสของวิมาน ความผ่องใสของวิมานย่อมแตกต่างกัน ด้วยอำนาจบุญบารมี คือ กำลังของใจ แต่ก็ควรจะบอกเขาว่า วิมานแต่ละวิมาน ก็มีความสวยสด ความน่ารื่นรมย์ทั้งนั้น
เขตวิมานแต่ละวิมาน บริเวณน่ะกว้างขวางไพศาล มีที่อยู่เป็นสุขสบาย มีความเลื่อมสวยสะอาดวิจิตรตระการตา นี่ก็เรียกว่า ความงามของแต่ละวิมานน่ะ พรรณากันไม่ถูก
นี่ความจริงมันเป็นอย่างนั้นนะ ความจริงเป็นอย่างนั้น ฉันไปเห็นมาแล้ว ก็เห็นตามนั้น แต่ฉันไม่ได้บอก สมเด็จพระพุทธกัสสป ท่านให้บอก ท่านตรัสอีกว่า
“เธอกลับลงไปบันทึกเสียงเอาไว้นะ บอกว่าตถาคตบอกว่าอย่างนี้ ให้ลูกหลานของเธอทุกคน หรือบริษัทของเธอทุกคน เขาตั้งใจไว้อย่างฉันพูดนะ

การจะไปสวรรค์ก็ดี ไปพรหมโลกก็ดี ไปนิพพานก็ดี เป็นของง่าย ไม่ใช่ของยาก ไม่ใช่ยากอย่างที่นักปราชญ์ในโลก เขาพูดกันเวลานี้ เวลานี้บรรดานักปราชญ์ทั้งหลายนิยมความยาก สิ่งไหนก็ตามที่มันยากเขาถือว่ามันดี เป็นแบบฉบับที่ถูกต้อง
แต่ฉันเห็นว่านั่นไม่ถูก ถ้าตามคติของฉัน ฉันว่าไม่ถูก เพราะสอนคนหรือพูดให้คนเข้าใจง่ายนั้นดี และวิธีปฏิบัติเพื่อผลที่จะพึงได้ให้ง่ายที่สุดนั่นแหละดี เรียกว่าทำง่ายที่สุดและได้ผลมากที่สุด อันนี้ดีกว่า ดีกว่าหาวิธีการที่สอนให้มันยากที่สุดแล้วได้ผลน้อยที่สุด อย่างนี้ไม่ดี ไม่ใช่ความประสงค์ของฉัน
สัมพเกษี เตือนบริษัทและลูกหลานของเธออย่างนี้นะว่า 
ให้ทุกคนรู้ตัวว่า มีวิมานอยู่บนสวรรค์ชั้นกามาวจรแล้ว เมื่อเวลาเขาทำความชั่วมา ก็ช่างเถิด เวลาก่อนจะนอน ให้นึกถึงความดีที่ทำไว้ ขึ้นชื่อว่าความชั่วทั้งหลายปล่อยมันไป คิดนึกถึงแต่ความดี แล้วเอาใจนี่จับไว้ว่า นี่เรามีวิมานแก้ว ๗ ประการไว้บนสวรรค์ชั้นกามาวจรแล้ว เวลาเราจะตาย เราจะไปอยู่วิมานนั้น
ถ้าเวลาป่วยไข้ไม่สบาย ไม่ต้องเอาอะไร นึกถึงคุณพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะนึกถึงพระพุทธก็ได้ พระธรรมก็ได้ พระสงฆ์ก็ได้ สิ่งก่อสร้างก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่งไว้ในใจ แล้วตั้งใจว่า เราจะไปอยู่วิมานของเราที่มีอยู่แล้ว ตั้งใจเพียงเท่านี้นะ ถ้าตายเขาจะถึงสวรรค์ชั้นกามาวจรทันที 
พวกที่จะไปพรหมโลก ก็เป็นของไม่ยากนะ สัมพเกษี บอกเขานะว่า 
คนที่ต้องการไปพรหมโลกน่ะ คืนหนึ่งให้สร้างความดี ๑๐ นาที ตอนกลางวันมันอาจจะเลว เอาดีกันตอนกลางคืน นั่งนับลมหายใจเข้าออกก็ตาม นั่งก็ได้ นอนก็ได้ ยืนก็ได้ เดินก็ได้ นับลมหายใจเข้าออกก็ได้ หรือจะนึกถึงพระกรรมฐานกองใดกองหนึ่งก็ได้ เพียง ๑๐ นาที ให้รู้ลมหายใจเข้าออกเท่านี้ก็พอ เวลาตายแล้วเป็นพรหมแน่ 
ที่นี้คนไหนต้องการไปพระนิพพาน ก็เป็นของไม่ยาก สัมพเกษี 
ให้เขาคิดเห็นว่า โลกนี้ทั้งโลกไม่มีอะไรที่เราชอบ ไม่มีอะไรที่เรารัก เราไม่รักอะไร เราไม่ชอบอะไรในโลกนี้ แม้ร่างกายของเราเอง เราก็ไม่ชอบ ไม่รัก เพราะมันเต็มไปด้วยความทุกข์ เต็มไปด้วยความทรมาน
แล้วให้ใคร่ครวญหาความจริงในโลก จะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม มันมีสภาพทรงตัวได้ตลอดกาลหรือเปล่า ถ้ามันมีการเปลี่ยนแปลง มีการสลายตัว ก็ถือว่าโลกนี้ทั้งโลกหาความดีไม่ได้แล้วก็หันมาคิดถึงกายของตัวว่า กายของเราเองนี่มันยังจะตาย ยังจะพัง เรายังจะปรารถนาอะไรภายนอกอีก เราไม่ต้องการ เราจะไปนิพพาน
เขาคิดเท่านั้นเพียงคืนละ ๑๐ นาทีนะ สัมพเกษีนะ ลูกหลานของเธอทุกคนจะพ้นนรกหมด พ้นอบายภูมิ อย่างน้อยก็ไปกามาพจรสวรรค์ อย่างกลางก็ไปพรหมโลก อย่างดีก็ไปพระนิพพาน 
นี่ท่านว่าไว้อย่างนี้นะ ลูกหลานที่รักทุกคน ได้ยินหรือยัง ถ้าได้ยินละก็จำไว้นะ ท่านสั่งสอนแบบนี้ สวัสดี

บทสรุปท้ายคำสอน (โดย อ.ชนะ เวบพลังจิต)

บทสรุปนี้ผมต้องขออภัยท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ
ผมได้มาพิจารณาเห็นว่าธรรมะที่นำเสนอทางเว็ปซึ่งถือว่าเป็นสื่อสาธารณะ
ใครๆ ก็เข้ามาอ่านได้ ซึ่งถ้าเป็นศิษยานุศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อแล้ว
ทุกคนจะเข้าใจดีและรู้เหตุผลที่สมเด็จพระพุทธกัสสปทรงเมตตาบอกหลวงพ่อ
ให้มาเตือนและแนะนำการปฏิบัติตั้งแต่กามาวจรถึงพระนิพพาน
คำสอนของพระพุทธเจ้านั้น พระองค์ทรงเป็นสัพพัญญู ทรงรู้ว่าจะสอนอย่างไร
กับคนกลุ่มใหน ไม่ยากไม่ง่ายแต่พอดีพอเหมาะกับแต่ละกลุ่มแต่ละบุคคล
คนมีหลายกลุ่มหลายจริตและการบำเพ็ญมาก็ไม่เหมือนกัน 
ดังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
ทรงแสดงธรรมถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ก็มาจากความหลากหลายของบุคคล

สำหรับท่านที่ไม่ใช่ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่ออ่านแล้วอาจจะไม่เชื่อ
และอาจจะคิดว่ามันง่ายเกินไป และที่สำคัญอาจจะปรามาสพระรัตนตรัย
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก 
ผมจะขอเน้นสำหรับท่านที่ไม่เชื่อไม่ศรัทธาอ่านแล้วก็อย่าคิดปรามาสพระรัตนตรัย
และโปรดเข้าใจด้วยว่าที่นี่เป็นห้องเฉพาะของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
และพระธรรมคำสอนของสมเด็จพระพุทธกัสสป ท่านทรงสอนเฉพาะลูกหลานและบริษัท
ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ติดตามหลวงพ่อที่ท่านได้บำเพ็ญบารมีมาถึง ๑๖ อสงไขย
มิได้สอนคนทั่วไป แต่ก็ไม่ได้ห้ามถ้าท่านศรัทธาและจะนำไปปฏิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
แต่ผลจะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับกำลังวาสนาบารมีของแต่ละท่าน
ถ้าท่านศรัทธาจริง ปฏิบัติจริง ก็คงจะมีผลตามสมควร
สำหรับท่านที่อ่านแล้วไม่เชื่อ ไม่ศรัทธาเพราะไม่ตรงจริตกัน
ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ติงมาก็กลัวบางท่านจะปรามาสพระรัตนตรัย
และขอขอบคุณและโมทนาเป็นอย่างสูงกับทุกๆ ท่านที่ได้เข้ามาอ่าน
ได้โมทนาและกรุณาแสดงความคิดเห็นครับ